จาก Part 1 ของ “สารต้องห้าม” กลุ่มที่ 1 มาต่อเนื่องกันที่ Part 2 กับเรื่องราวที่เหลืออยู่ ซึ่งประกอบด้วยสารกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็น “สารห้ามใช้ เฉพาะในช่วงการแข่งขัน” และสารกลุ่มที่ 3 คือ สารที่กำหนดห้ามไว้ในกีฬาบางชนิด … โดยสารกลุ่มที่ 2 ซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ “สารห้ามใช้ เฉพาะในช่วงการแข่งขัน” จะประกอบไปด้วย
– สารกระตุ้น (Stimulants) ที่อยู่ในรูปแบบยาต่างๆ เช่น ยาแก้หวัด หรือ ยากระตุ้นประสาท เพราะจะมีผลต่ออัตราการทำงานของระบบในร่างกาย และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ ส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณไหลเวียนของเลือด ขณะที่ผลข้างเคียงสามารถเกิดขึ้นได้หลายระดับ ตั้งแต่ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ, ความดันโลหิตสูง, ปวดกล้ามเนื้อ, สภาวะช็อค, ระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว, เบื่ออาหาร ไปจนถึงขั้นประสาทหลอนเลยทีเดียว
– สารเสพติด (Narcotics) แน่นอนว่าเป็นสารที่เสพเข้าไปแล้ว ทำให้เกิดความต้องการทั้งร่างกาย และจิตใจ ทั้งยังส่งผลให้มีความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่ที่ใช้สารตัวนี้ ก็เพราะสามารถบรรเทาอาการปวดของร่างกายได้ แต่ผลข้างเคียงก็คือจะทำให้ผู้ใช้อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน มึนเมา ไปจนถึงระบบหายใจถูกทำลาย และอาจเสียชีวิตได้เนื่องจากหัวใจล้มเหลว
– สารประเภทกัญชา แน่นอนว่าเหตุผลที่ใช้ ก็คือบรรเทาภาวะเครียดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน ส่วนผลเสียก็คือ อาจเกิดภาวะความจำเสื่อม คิดช้า สมาธิสั้น ประสาทหลอน ตลอดจนเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพองอีกด้วย
– สารกลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoids) ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบยาหยอดตา ยาหยอดหู ครีมทาผิวหนัง และยาพ่นกล้ามเนื้อ โดยสารนี้จะส่งผลให้มีการยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ว่ากันต่อที่ สารกลุ่มสุดท้าย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ 3 ในหมวดหมู่ของ “สารต้องห้ามที่กำหนดในบางชนิดกีฬา”- โดยหลักๆ ก็คือ สารเบต้า-บล็อกเกอร์ (Beta-Blockers) ซึ่งคุณสมบัติก็คือช่วยชะลอการเต้นของหัวใจ และมักจะใช้ในประเภทกีฬาที่ต้องการสมาธิ เช่น ยิงปืน, ยิงธนู, แข่งรถยนต์ หรือ กอล์ฟ