มาทบทวนและรู้จัก Pit Window Open / Close คืออะไร … พร้อมทำความเข้าใจ “แต้มต่อ” ของศึกใหญ่ 1 ชั่วโมงเต็มกันอีกสักครั้ง ก่อนการแข่งขันตัดสินแชมป์ที่กำลังจะเกิดขึ้น…
ในการแข่งขัน Thailand Super Series รุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ไม่ควรพลาดก็คือรุ่นทำการแข่งขันสายโหด ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่จาก Sprint Race มาซัดกันเต็มเวลา 1 ชั่วโมง เช่น รุ่น Thailand Supercar GT3, รุ่น Thailand Supercar GTM ตลอดจนพิกัดเล็กอย่างรุ่น Thailand Super Compact และรุ่น Thailand Super Production
และด้วยการแข่งขันนาน 1 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งนักแข่งต้องใช้พลังใจ และพลังกายในระดับสูงกว่าปกติ ทำให้แต่ละทีมได้รับอนุญาตให้สามารถมีนักแข่งทีมละ 2 คน และถือใบขับแข่งสากลในระดับต่างกันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เกมส์การแข่งขันจะสนุกได้ ก็จำเป็นต้องอยู่ภายใต้กฎกติกา เพื่อสร้างความเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นจึงเกิดข้อกำหนดต่างๆ เพื่อทำให้การแข่งขันนั้น “น่าลุ้น” มากยิ่งขึ้น
เริ่มตั้งแต่ “การจับคู่” ของนักแข่งในแต่ละทีม ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงการจับเวลารอบคัดเลือก (Qualify) ที่มีการแบ่งเป็นรอบที่ 1 และรอบที่ 2 โดยนักแข่งทั้ง 2 คน หากคนใดคนหนึ่งมีใบขับแข่งเกรดต่ำกว่า ก็จะต้องรับหน้าที่ลงจับเวลารอบคัดเลือก และลงแข่งขันจริงเป็นมือแรกในเรซที่ 1 ซึ่งหากนักแข่งทั้ง 2 คนมีเกรดใบขับแข่งสากลเท่ากัน กรณีนี้จะอยู่ที่การตกลงกัน ส่วนการจับเวลารอบคัดเลือก (Qualify) ในรอบที่ 2 จะเป็นหน้าที่ของนักแข่งที่เกรดใบขับแข่งสากลสูงกว่า หรือนักแข่งอีกคนที่เหลืออยู่ในทีม
ตามด้วยการเพิ่มความเข้มข้นในเกมส์การแข่งขันด้วยช่วงเวลาพิเศษที่เรียกว่า Pit Window Open และ Pit Window Close ที่ทำให้แต่ละทีมสามารถกลับเข้า Pit ทำภารกิจได้เพียง 1 ครั้ง โดยจะถูกกำหนดให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่นาทีที่ 25 ไปจนถึงนาทีที่ 35 เท่านั้น (หลังจาก 25:00.000 นาที – ไม่เกิน 34:59.000 นาที)
โดยในแต่ละทีมของของบรรดารุ่นใหญ่อย่าง Thailand Supercar GT3, Thailand Supercar GTM จะถูกบังคับให้ใช้เวลาในพิทไม่ต่ำกว่า 90 วินาที ที่เรียกกันว่า Compulsory Pit Stop Time (สำหรับสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต) ตามด้วยการลดทอนความได้เปรียบ เสียเปรียบด้านความต่างของดีกรีนักแข่ง จากการบวกเวลา Compensation Times เพิ่มเติมตามระดับเกรดใบขับแข่ง เช่น
• นักแข่งฉายเดี่ยว ด้วยใบขับแข่งเกรด Bronze จะบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 8 วินาที เป็น 98 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ ด้วยใบขับแข่งเกรด Bronze/Silver จะบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 30 วินาที เป็น 120 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ ด้วยใบขับแข่งเกรด Bronze/Gold หรือ Platinum จะบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 30 วินาทีเป็น 120 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ ด้วยใบขับแข่งเกรด Silver/Silver จะบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 52 วินาที เป็น 142 วินาที
• นักแข่งที่ฉายเดี่ยว ด้วยใบขับแข่งเกรด Silver จะบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 60 วินาที เป็น 150 วินาที
• ยกเว้นนักแข่งที่มาเป็นคู่ ด้วยใบขับแข่งเกรด Bronze เท่านั้นที่ไม่ได้รับการบวกเวลาเพิ่ม
ในขณะที่รุ่น Thailand Super Compact และรุ่น Thailand Super Production ก็จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่มตามระดับดีกรีของนักแข่ง ประกอบด้วย
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ด้วยเกรด A/A จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 15 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ด้วยเกรด A/B จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 15 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ด้วยเกรด A/C จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 15 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ด้วยเกรด B/B จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 15 วินาที
• นักแข่งที่มาเป็นคู่ด้วยเกรด B/C จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 15 วินาที
• นักแข่งฉายเดี่ยวเกรด A จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 23 วินาที
• นักแข่งฉายเดี่ยวเกรด B จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 23 วินาที
• นักแข่งฉายเดี่ยวเกรด C จะได้รับการบวกเวลา Compensation Times เพิ่ม 8 วินาที
• ยกเว้นนักแข่งที่มาเป็นคู่ด้วยเกรด C/C จะไม่ได้รับการบวกเวลาเพิ่ม
และท้ายสุดกับ “แต้มต่อ” ที่เกิดขึ้นหลังผลแข่งขันเรซที่ 1 ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ อันดับ 1, 2 และ 3 ของทุกรุ่นที่ทำการแข่งขันแบบ 1 ชั่วโมงเต็ม จะถูกบวกเวลาเพิ่มแทนการถ่วงน้ำหนัก โดยอันดับที่ 1 จะบวกเวลาเพิ่มอีก 15 วินาที, อันดับ 2 บวกเวลาเพิ่มอีก อีก 10 วินาที และอันดับ 3 บวกเวลาเพิ่มอีก 5 วินาที ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อสร้างโอกาสในการลุ้น และความมันส์ในเกมส์การแข่งขันนัดถัดไปให้มากขึ้นนั่นเอง